
นับเป็นภาพประทับใจแห่งศรัทธาที่ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ เมื่อ บริษัท มัลติ อินโนเวชั่น เอนยิเนียริ่ง จำกัด (MIE) พร้อมด้วยเหล่าบริษัทในเครือ, กลุ่มพันธมิตรผู้รับเหมา และพนักงานจิตศรัทธา ได้รวมพลังเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2568 ณ วัดดอยแท่นพระผาหลวง ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 สะท้อนพลัง “กฐินวิศวกร” ที่นำความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง มาสร้างมหากุศลต่อยอดพระพุทธศาสนาอย่างเป็นรูปธรรม
ความพิเศษของกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการถวายจตุปัจจัยไทยธรรม แต่คือการ “ถวายงานวิศวกรรม” อันเป็นความเชี่ยวชาญหลักของ MIE และพันธมิตร เพื่อดำเนินการติดตั้ง 4 ระบบสำคัญ อันเปรียบดังแสงสว่างส่องทางธรรม ให้แก่ “ศาลาปฏิบัติธรรมหลังใหม่” ของทางวัด ประกอบด้วย:
- ระบบไฟฟ้า (Electrical System)
- ระบบแสงสว่าง (LED Lighting)
- ระบบเครื่องเสียง (Sound System)
- ระบบโซลาร์เซลล์ (Solar Cell System)
การถวายระบบสาธารณูปโภคไฮเทคทั้ง 4 นี้ ถือเป็นการ “ต่อยอดบุญ” ครั้งสำคัญยิ่ง เนื่องจากศาลาปฏิบัติธรรมแห่งใหม่นี้ กำลังจะกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจแห่งใหม่ของชุมชน การมีระบบไฟฟ้า แสงสว่าง และเครื่องเสียงที่สมบูรณ์พร้อม จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่พุทธศาสนิกชนที่จะเข้ามาปฏิบัติธรรม สดับฟังธรรม และประกอบศาสนกิจต่างๆ ในอนาคตได้อย่างเต็มศักยภาพ
คณะทำงานของ บริษัท มัลติ อินโนเวชั่น เอนยิเนียริ่ง จำกัด (MIE) เปิดเผยว่า “นี่คือเจตนาอันแน่วแน่ของพวกเราทุกคนที่ต้องการถวาย ‘แสงสว่าง’ และ ‘เสียงธรรม’ เพื่อการสืบทอดพระพุทธศาสนา เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งในอานิสงส์แห่งการให้แสงสว่าง ซึ่งเปรียบดังการให้ปัญญาและความรุ่งโรจน์”
ทาง MIE ขอน้อมส่งอานิสงส์ผลบุญนี้ไปยังทุกท่านที่ได้ร่วมอนุโมทนา ทั้งผู้ที่ร่วมปัจจัย ร่วมแรง และร่วมส่งกำลังใจ ขอผลบุญแห่งการถวายแสงสว่างและเสียงธรรมเป็นทานนี้ จงดลบันดาลให้ชีวิตของทุกท่านมีแต่ความรุ่งเรืองก้าวหน้า, มีปัญญาสว่างไสว, มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ, เกิดดวงตาเห็นธรรม และมีผู้คอยอุปถัมภ์ค้ำชู ไม่ตกอยู่ในที่มืดมนอับจน
กฐินไฮเทคในครั้งนี้ จึงนับเป็นมิติใหม่ของการทำบุญในยุคดิจิทัล ที่ภาคเอกชนนำ “ความเชี่ยวชาญ” ขององค์กร มาสร้างประโยชน์สูงสุดคืนสู่สังคมและสถาบันพระพุทธศาสนาได้อย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม ขออนุโมทนาสาธุการในมหากุศลครั้งนี้โดยทั่วกัน
สักการะ “พระบิ่นลังต๋ำ” ปริศนาธรรม 700 ปี
สำหรับวัดดอยแท่นพระผาหลวงแห่งนี้ ถือเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นที่ประดิษฐานพระประธานอันมีเอกลักษณ์นามว่า “พระบิ่นลังต๋ำ” (ภาษาเหนือ แปลว่า “พระนั่งหันหลัง”)
การสร้างพระพุทธรูปในลักษณะหันหลังให้ผู้กราบไหว้นี้ ยังคงเป็น “ปริศนาธรรม” อันลึกซึ้งที่ท้าทายการตีความมาจนถึงปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น “พระบิ่นลังต๋ำ” องค์นี้ ยังมีความเก่าแก่สูงค่ายิ่ง จากข้อมูลกรมศิลปากรพบว่ามีอายุกว่า 700 ปี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยเชียงแสนยุคต้นโยนกนคร ถือเป็นมรดกทางศรัทธาที่หาชมได้ยากยิ่ง















